เข้าสู่เดือนมิถุนายนกันแล้ว!! แน่นอนว่าเราจะได้โบกมือลาหน้าร้อนอันร้อนระอุของเมืองไทยกันเสียทีพร้อมต้อนรับการมาของหน้าฝนอย่างเป็นทางการ อย่างไหร่ก็ตามนอกจากความเย็นสบายที่เกิดขึ้นแต่สำหรับผู้ขับขี่ไม่ว่าจะเป็นรถประเภทใด รถเล็ก หรือรถใหญ่ สิ่งที่ควรให้ความสำคัญและใส่ใจเป็นพิเศษก็คือ ระบบเบรก

.

จากสถิติบ่งชี้ว่า หน้าฝน คือ ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดของปี!! ฉะนั้นแล้วเพื่อนๆ ท่านใดที่จำไม่ได้แล้วว่ารถเรามีการเข้าเช็คระบบเบรกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ก็ควรใช้เวลาช่วงนี้เข้าอู่ หรือศูนย์บริการตรวจเช็คเพื่อให้แน่ใจว่าระบบเบรกของรถคุณนั้นไม่มีอะไรบกพร่องและพร้อมที่จะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงหน้าฝน

.

โดยวันนี้ NEXZTER ก็มี 3 ประเด็นหลักที่ควรต้องคำนึงในการขับขี่ช่วงหน้าฝนมาฝากกันครับ นั่นคือ ตรวจเช็คเบรกให้พร้อม, หมั่นดูแลเบรกให้ดี และ ขับขี่ / เบรกอย่างปลอดภัย

.

ตรวจเช็คเบรกให้พร้อม : โดยปกติควรมีการตรวจเช็คระบบเบรก และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทุกๆ 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร ส่วนผ้าเบรกจะมีอายุการใช้งานประมาณ 60,000-80,000 กิโลเมตร และควรเปลี่ยนเมื่อผ้าเบรกเมื่อมีความหนาเหลืออยู่ประมาณ 4 มิลลิเมตร ส่วนของจานเบรก ควรมีการเปลี่ยนเมื่อความหนาเหลือน้อยกว่าที่กำหนดเพราะในช่วงหน้าฝนนั้นมีโอกาสขับรถลุยน้ำขณะที่จานเบรกร้อนซึ่งอาจทำให้จานเบรกคดได้ นอกจากนี้ก็ไม่ควรลืมที่จะตรวจเช็คระดับน้ำมันเบรกให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมโดยควรอยู่ที่ขีดระดับ Max เสมอ หรือต่ำกว่าได้เล็กน้อยครับ

.

หมั่นดูแลระบบเบรกให้ดี : ช่วงหน้าฝนผู้ขับขี่ควรเพิ่มการดูแลระบบเบรกให้มากขึ้นเนื่องจากมีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในระบบเบรกจนเกิดความชื่นหรือนำพาสิ่งสกปรกอย่างดินโคลนเข้าไปติดอยู่ที่หน้าผ้าเบรกและจานเบรกเป็นเหตุให้เกิดปัญหาเบรกลื่นและเบรกไม่อยู่ครับ ซึ่งวิธีง่ายๆ ก็คือ มั่นดูแลทำความสะอาดด้วยสเปรย์สูตรเฉพาะสำหรับเบรก เพื่อไล่ความชื้นและชะล้างสิ่งไม่พึงประสงค์ออกไป (ไม่ควรเสี่ยงใช้น้ำยา หรือน้ำมันอื่นๆ มาทำความสะอาด เพราะอาจนำมาซึ่งปัญหาในภายหลังได้)

.

ขับขี่และเบรกอย่างปลอดภัย : สำหรับผู้ขับรถที่เน้นใช้ความเร็วเป็นหลักสิ่งหนึ่งที่ควรต้องระวังมากที่สุดช่วงหน้าฝนก็คือ การเบรก เพราะการที่ต้องขับรถท่ามกลางสายฝนและลุยน้ำอยู่บ่อยๆ จะทำให้มีความชื้นหรือน้ำไปเกาะอยู่ที่หน้าผ้าเบรกและจานเบรกเป็นเหตุให้การเสียดทานลดประสิทธิภาพลงได้ ฉะนั้นหลังจากขับรถลุยน้ำมาจึงควรย้ำเบรกบ่อยๆ เพื่อเป็นการไล่น้ำออกไปซึ่งจะป้องกันอาการเบรกลื่นได้และควรหลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแบบกะทันหันเนื่องจากพื้นถนนที่เปียกทำให้หน้ายางยึดเกาะถนนได้น้อยลง การเหยียบเบรกเร็วเกินไปจึงทำให้รถเสี่ยงต่อการลื่นไถลได้นั่นเองครับ

.

นอกจากนี้การขับรถควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ เช่น การขับรถทางไกลควรเว้นระยะจากคันหน้าราวๆ 60 เมตร หรือประมาณ 12 ช่วงคันเพื่อให้มีระยะเบรกได้ทันเวลาหากเกิดเหตุฉุกเฉิน